ธนาคารกลางตุรกีประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 1% จากที่คงไว้ 14% มานานกว่าครึ่งปี ลงมาอยู่ที่ 13% แนวทางดังกล่าวสวนทางกับหลักการทางเศรษฐศาสตร์ที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยึดถือมานาน นั่นคือ เมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น วิธีการที่จะใช้ควบคุม คือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้สอดประสานกัน
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของตุรกีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 79.6% เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ถือเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 24 ปี แม้ธนาคารกลางให้เหตุของการลดอัตราดอกเบี้ย ว่าเพื่อกระตุ้นการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เงินลีราตุรกียังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ และยิ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน ซึ่งต้องเผชิญกับราคาอาหาร เชื้อเพลิง และสิ่งของจำเป็นอีกหลายอย่างที่แพงขึ้น
หนึ่งในนั้นคือ “สมิท” ( simit ) ขนมปังคล้ายเบเกิลเคลือบด้วยงาคั่ว ซึ่งเป็นอาหารว่างยอดนิยมและอาหารเช้าแบบดั้งเดิมของชาวตุรกี โดยขณะนี้ราคาขนมดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นมาก จนกลายเป็นอาหารฟุ่มเฟือยสำหรับชาวยากจนไปแล้ว ยิ่งตอกย้ำความตึงตัวของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศแห่งนี้